ไม่ช่วย อย่าลบหลู่
โดย พร อันทะ เมื่อ
ในถาวะที่พื้นที่ส่วนกลางของประเทศไทยกำลังประสบภัยน้ำท่วมอย่างหนัก ผมไม่รู้ว่าพื้นที่แห่งนี้ในรอบสามพันปีมันเคยเกิดน้ำท่วมอย่างนี้หรือไม่ แต่เท่าที่รับรู้ ผมว่ามันไม่ใช่น้ำท่วม มันเป็นแค่เพียงมวลน้ำมหาศาลไหลลงทะเล ตามกฎของไหล
แต่ในช่วงนี้มันมากเกินกว่าที่เคยเกิดขึ้นแค่นั้นเอง
ซึ่งมันเป็นเรื่องธรรมชาติ
แม่ของผมเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนบ้านอยู่ติดลำน้ำชี น้ำไหลผ่านทีนานเป็นเดือนๆ จะลงจากบ้านต้องเดินทางด้วยเรือ วัว ควายเอาไปจอดไว้บนที่ดอน น้ำไหลผ่านนานจนต้องทำมาหากินกับน้ำ แม่ผมท้องก็อยู่บ้าน พ่อทำคันเบ็ดให้ นั่งริมหน้าต่างหาปลากันไป
แต่สุดท้ายน้ำไหลผ่านบ่อยก็ไม่ไหว พ่อพาย้ายหนีไปอยู่อุดรธานี ที่ ที่ไม่มีน้ำชีไหลผ่าน
แต่ในช่วงนี้ผมมีปัญหาที่พานำทำให้ไม่สบายใจ ปัญหาไม่ใช่เรื่องของน้ำท่วม แต่มันเป็นปัญหาที่มันค้างคาและมาแสดงผลเอาตอนน้ำท่วม (มันมากับน้ำท่วม)
ไม่ผิดที่เรานั้นมีความเห็นต่างทางด้านการเมือง
เพื่อนพ้องหลายคน ผู้คนมากมาย หลากหลายความคิด “การมุ่งกระหน่ำ ซ้ำเติม เยาะเย้ย” การทำงานผิดพลาดของผู้ที่กำลังช่วยกันแก้ปัญหาอยู่นั้น ดันถือเป็นเรื่องสนุก สะใจ อะดีนาลีนไหลพล่าน บางส่วนที่ไม่พูด แต่เห็นด้วยกับ ทวีต หรือ วอลล์บนเฟสบุ๊ค แชร์กันไป
แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการกระทำในลักษณะนี้ มันไม่ผิด แค่มันไม่สร้างสรรค์ การวิพากษ์ หรือ วิจารณ์ที่ดีนั้นควรมาพร้อมกับแนวทางการเสนอแนะเพื่อให้มันดีขึ้นไป
ผมเห็นด้วยที่ว่าเราก็สามารถตั้งคำถามได้ มีข้อสงสัยได้ พูดได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของจิตสำนึก
ถ้าคุณเคยเป็นผู้นำ และต้องนำพาความคิดของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันแล้วนั้น คุณจะรู้ว่ามันไม่ง่ายเลย ที่จะต้องแก้ปัญหาอะไรก็ตามที่มันเกิดขึ้น มันจะหนักกว่านี้ถ้าปัญหานั้นมันหมักหมมมายาวนาน
รัฐบาลแก้ปัญหาน้ำหลากผิดพลาด ผมเชื่อเลยว่า “ใช่” ไม่งั้นมันคงไม่สาหัสขนาดนี้ เมื่อรู้อยู่แล้วว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นก็คงต้องแก้ปัญหาไปตามนั้น ซึ่งผมก็เชื่ออีกว่าคนที่ต้องแก้ปัญหาก็แก้ไปตามที่คิดว่ามันจะแก้ได้ แต่ “มันใหญ่มาก” เกินกว่าประสบการณ์ที่เราเคยมีจะแก้ปัญหาได้ เราก็ต้องยอมรับ
แต่ผู้ที่รับผิดชอบ “ดันไม่ยอมรับ” ว่ามันป้องกันได้ไม่หมด แต่ก็พยายามหมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ปัญหามันเลยลุกลามไปกันใหญ่
“เอาอยู่” หรือ “เราเชื่อว่าเราป้องกันได้” วลีและประโยคสั้นๆ ได้ใจความที่ตอนนี้พื้นที่ไหนได้ยินก็ต้องเก็บขึ้นที่สูงแล้วก็หนีออกจากพื้นที่ไปอยู่กับญาติที่อื่นกันให้หมด คนมีบ้านที่เดียวก็ซวยไป
เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ “มันไม่ได้ผิดธรรมชาติ” มันเป็นเรื่องของธรรมชาติ สิ่งที่เพื่อนพ้อง ผู้คนเป็นอยู่และเป็นไป “ก็เป็นเรื่องของธรรมชาติ” เพราะ “มนุษย์” ก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
หรือว่าบางคนลืมไปแล้ว ว่าเราเป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตที่ธรรมชาติสร้างมาเพื่อสมดุลแห่งธรรมชาติเอง
คนที่อยู่ในกรุงเทพฯ ก็ดี รอบๆ กรุงเทพฯ ก็ดี ตอนนี้สื่อกระแสหลักส่วนใหญ่ก็มีแต่ข่าวน้ำจะท่วมกรุงเทพ แล้วคนที่ นครสวรรค์ ลพบุรี อ่างทอง ชัยนาท โคราช มหาสารคาม ศรีสะเกษ และจังหวัดอื่นๆ เขาอยู่กันยังไง เขามองคนเมืองหลวงกันยังไง
ตอนนี้ใคร ช่วยเหลือ ดูแลพื้นที่ตรงนั้นอยู่ มีครับ ไม่ใช่ไม่มี แค่มันไม่มีในทีวี แค่นั้นเอง
ถ้าช่วยอะไรไม่ได้ ก็แค่อย่าซ้ำเติม นั่งนิ่งๆ อย่าหย่อนเท้าลงน้ำให้น้ำไหลผ่านเล่น เดี๋ยวน้ำมันลงอ่าวไทยช้ากว่าปกติ
หรือคุณคิดว่าเรื่องบริหารจัดการน้ำมันทำได้ภายในช่วงเวลาสั้นๆ หรือทำไมเราไม่ทำกันตั้งแต่ 50 ปีที่แล้ว หรือน้ำมากขนาดนี้ เราจะจัดการกันยังไง
บางที การที่พ่อผมพาครอบครัวย้ายจากลุ่มน้ำชี หนีไปอยู่อุดรธานี มันก็เป็นความคิดที่เข้าท่าดีเหมือนกัน
มีความสุขกับการใช้ชีวิตครับ