เสาหิน: ความเหมือนที่แตกต่างของความเป็นไท(ย)
โดย พร อันทะ เมื่อ
เสาหิน ตำบลเล็กๆ ของอำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน อยู่กลางหุบเขา ติดชายแดนพม่า มีหมู่บ้านเล็กๆ อยู่กันเป็นหย่อมๆ หมู่บ้านละ 10-80 หลังคาเรือน ส่วนใหญ่เป็นกะเหรี่ยงและไทใหญ่ ถือบัตรสีชมพู มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ถือบัตรแสดงตนเป็นคนไทยและอีกส่วนหนึ่งไม่มีบัตร หรือสำเนาทะเบียนบ้านแสดงความมีตัวตนใดๆ
ใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ใช้น้ำปะปาดอย
ระยะทางเกือบร้อยกิโลเมตรจากตัวอำเภอแม่สะเรียง มุ่งหน้าขึ้นสู่ทิศตะวันตกเฉียงเหนือเข้าไปเกือบๆ จะเหยียบชายแดนพม่า ด้วยรถกระบะ 4×4 เท่านั้น ถ้าไม่ขับเคลื่อน 4 ล้อ ก็ต้องเป็นรถสิบล้อขนของส่งเข้าพม่าด้านชายแดนเข้าสู่บ้านท่าทราย (ของพม่า) ซึ่งเป็นด่านผ่อนปรนภาษี
ที่ผมบอกต้องกระบะขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้นก็เพราะว่าสภาพถนนที่เรียกได้ ไม่เต็มปากว่ามันเป็นถนน เพราะบางส่วนต้องวิ่งบนห้วย ใช่ครับ ขับรถล่องไปตามลำห้วย พวกเราใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมงกับระยะทาง 94 กิโลเมตร (พักกินข้าวที่ด่านยอดดอย) ในฤดูฝน สิ่งที่สิงห์บรรทุกสิบล้อทั้งหลายหรือคนที่จะเข้าไปยังเสาหินต้องเตรียมไป ด้วยคือ เต็นท์และอาหารสำรองระหว่างทาง เพราะบางครั้งน้ำป่าไหลแรงทำให้ไม่สามารถขับรถข้ามห้วยไปได้ ต้องนั่งรอ นอนรอกัน
ตำบลเสาหิน มีอะไรดีผมจึงต้องเข้าไปดู บอกตรงๆ ตรงนี้ว่า ไม่ได้มีอะไรแตกต่างหากมองเพียงผิวเผิน และแตกต่างจากหมู่บ้านโดยทั่วไปในเมืองไทยเป็นอย่างมากหากมองง่ายๆ เช่น ถนนหนทางไม่ดี ไฟฟ้าไม่มี 90% ของบ้านที่อยู่ตรงนั้นเป็นบ้านหลังคามุงใบจาก น้อยมาที่จะมีสังกะสีหรือกระเบื้อง
แต่ กะเทยเข้าถึงแล้ว!
สิ่งที่ดูแล้วไม่แตกต่างก็คือ คน เพราะไม่มีอะไรบ่งบอกเลยว่าเขาเหล่านั้นแตกต่างจากคนไทยโดยทั่วไป เพราะเสื้อกีฬาฟุตบอลของสโมสรชั้นนำของยุโรปมีให้ใส่กันเกลื่อน งบประมาณถนนคอนกรีต ก็ สองสามแสนบาทต่อ 50 เมตร เหมือนกัน การใช้ชีวิตเหมือนคนชนบทพื้นราบโดยทั่วไป แตกต่างเพียงแค่ความสะดวกสบายและการศึกษา
ที่ผมเข้าไปด้อมๆ มองๆ ดูก็เพราะอยากจะรู้ว่าชีวิตคนชายแดนที่ยังอยู่ห่างไกลแถบนั้นเขาใช้ชีวิต อยู่กันยังไง เพื่อที่จะได้นำเอาสิ่งที่เห็นและได้สัมผัสมาเขียนเป็นบทสารคดีโทรทัศน์
แต่ยิ่งผมเห็นสภาพความเป็นอยู่ในถิ่นที่เรียกว่าทุรกันดารแบบนั้นแล้วผม ก็ไม่รู้จะอธิบายว่ามันเป็นอยู่ในรูปแบบไหนกันแน่ มันสับสนวุ่นวาย เรียบเรียงข้อมูลไม่ถูก จะว่ากันดารก็ไม่ใช่ อยู่ดีก็ไม่เชิง
อาจเป็นเพราะ ความแตกต่างระหว่างสิ่งตรงข้ามกันมันมองเห็นได้มากมายเสียเหลือเกิน เกินเสียจนจะจำแนกมันออกมาอย่างง่ายดายและชัดเจนได้
แล้วผมจะนำมาบอกเล่า ทีละเรื่อง
มีความสุขกับการใช้ชีวิตติดเส้นชายแดน ไทย-พม่า ครับ
ปล. ขากลับ รถของพวกเราติดหล่ม จนต้องรอสิบล้อมาดึงขึ้นจากลำห้วย