สารคามแดนฝัน

โดย พร อันทะ เมื่อ

ช่วงนี้ หมายถึงช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2554 ข่าวรับน้องมาแรงอีกคำรบ ที่สำคัญมีข่าวคราวจากสถาบันแดนฝันของกระผมขึ้นหน้าหนึ่งเสียด้วย

พร อันทะ ไปสอนพิเศษ

รุ่นน้องประท้วงรุ่นพี่จากการประชุมเชียร์ อันโหดร้าย ซึ่งจริงๆ แล้วตอนนี้ผมไม่รู้เป็นยังไง แต่สมัยที่ผมเข้าเรียน ที่มหาลัยมหาสารคามเมื่อ 11 ปีที่ผ่านมา ผมถือว่ากิจกรรมรับน้องเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ผมไม่ค่อยชอบ ไม่อยากเข้าและแอบหนีไปเตะบอลที่สนามโรงเรียนบ้านท่าขอนยาง บ่อยๆ (เตะใน มอ ไม่ได้เดี๋ยวพวกรุ่นพี่เห็น โรงเรียนบ้านท่าขอนยางก็อยู่ใกล้ๆ กันและอาจจะถูก มอ ข้างๆ อมสักวัน) หรือนอนอ่านหนังสือในห้อง เพราะคิดว่าสองอย่างนี้น่าจะมีประโยชน์กว่าการไป วิดพื้น 100 ครั้ง วิ่งจัดแถวให้ได้ภายใน 5 วิ กระโดดกบขึ้นลงบันได หรืออะไรก็ตามที่คนปกติเขาไม่ค่อยทำกันแต่พี่ว๊ากกกกก จัดหามาให้ ด้วยเหตุผลคลาสสิค “เพื่อความสามัคคี สมานฉันท์” แต่ยิ่งทำแม่มยิ่งแตกแยก

บางทีอาจจะมี การเยิ้บแก้กรรมน้องๆ สัก 2 ดอก ตามมาเหมือนที่แม่ชีบางท่านว่าก็ ไม่รู้

สาระพัด สาระพัน รูปแบบ 108 คำคมที่รุ่นพี่จะสรรหามาพูดเพราะๆ ตามประสา ให้รุ่นน้องกลัวขี้หดตดหาย

ใช่ว่าผมจะไม่เข้าร่วมเสียทีเดียว ไปน่ะ ไปบ้าง แต่ให้ไปทุกวันก็ไม่ไหว

สิ่งที่เหลือตอนนี้หลังเวลาผ่านไป 11 ปี คือเหลือเพื่อน 1 คน เพื่อนที่เจอกันแว๊บๆ ตอนรับน้อง แต่มาคุ้นเคยกันตอนเล่นกีต้าร์ เล่นดนตรีกันที่หอพักซะมากกว่า

ผมมันเป็นพวกไม่เข้าใคร ออกใคร คล้ายๆ ปอบ

ชีวิตมหาลัยจำได้แค่เวลาเมาที่หน้าร้าน “รักบ้านเกิด” ปลาเผา “ไผ่สีทอง” ผัดไท “คุณลุง จานใหญ่” ก๋วยเตี๋ยวหน้าร้าน สมสกุล ตื่นเช้าที่ห้องพักครูแล้วต้องรีบเก็บกวาดทำความสะอาด แล้วก็ปั่นจักรยานหนีไปกับอาจารย์ชายหล่อล่ำ ผิวคล้ำคนนั้น ก่อนที่คณะบดีโผล่เข้ามาเจอ

การเรียนผ่านไปด้วยเกรดดี อาจจะมี ซี บ้าง มีหนี้ กยศ. เหมือนนักศึกษาทั่วๆ ไป

ที่ผมเรียนไม่เก่ง เพื่อนไม่เยอะ สงสัยอาจเป็นเพราะผมไม่ค่อยเข้าประชุมเชียร์เสียเท่าไหร่ แต่สุดท้ายตอนนี้ผมก็ไม่ได้เสียดายกับมันมากมาย (จะไปเสียดายทำไมวะ) หมายถึงเรื่องการเรียนนั่นนะ แต่เสียใจที่ทำได้ไม่ค่อยดี เอ่อ ไม่ตั้งใจทำให้มันดีตั้งแต่แรก แต่บางทีถ้าตั้งใจทำให้ดีชีวิตมันคงไม่ได้เป็นแบบที่ปนอยู่ ทุกวันนีก็ สนุกดี กับชีวิตด้านๆ

เห็นด้วยไหมกับการรับน้อง ผมออกแนวเฉยๆ และเอนไปทางไม่อยากเอา เพราะมันไม่ใช่แค่รอบเดียว หลังจากรับน้องมหาลัย ต่อไปก็ต้องเจอรับในคณะอีก รับคณะเสร็จก็รับสาขาวิชาต่อ มึงจะรับกันไปถึงไหนไม่ทราบ

ไม่จำเป็นต้องให้น้องๆ มาประท้วงประจาน พี่ว๊ากกกกก ทั้งหลายน่าจะปรับเปลี่ยนการรับน้องให้มันเข้ายุคเข้าสมัยหน่อย พาไปกินไอติมบ้าง ลงท่งลงท่า ดำนาบ้าง เข้าสำนักศิลป์ วาดเขียนบ้าง ประกวดอ่านหนังสือบ้าง ปั่นหยักยานบ้าง อะไรบ้าง มิใช่ต้องมาฝึกวิ่ง ฝึกหมอบ คลาน ยังกะจะส่งน้องใหม่ไปรบที่สามจังหวัดชายแดนเยี่ยงนี้ มันก็ไม่ไหว

ไม่รู้ว่าเหตุการณ์คราวนี้จะจบลงยังไง น้องๆ ที่รวมกลุ่มกันประท้วงรุ่นพี่ว๊าากกกกก จะถูกตัดรุ่นหรือไม่ (เอ่อ มันมีไว้ทำไมวะ สายรุ่นนั้น รุ่นนี้เนี่ย กูไม่เห็นได้ใช้แฮะ) เอ๊ะ สำนวนนี้ พี่จ่าดราม่านี้หว่า เอาใหม่ๆ

ถึงยังไง สารคามแดนฝันหรือ มมส. ก็ถือเป็นสถาบันที่ผมร่ำเรียน ถูไปไถมา ตลอด 4 ปี มันก็คงเป็นมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดมหาสารคาม อยู่วันยังค่ำ