มีความทุกข์จึงทำให้เรารู้จักความสุข
โดย พร อันทะ เมื่อ
เตียงเข็ญซึ่งดำเนินการโดยบุรุษชุดสีเทาจอดรออยู่แล้วที่หน้าห้องพร้อมกับพยาบาลสาวถือแฟ้มประวัติยืนขนาบข้าง จุดหมายถัดไปคือห้องผ่าตัด รถเข็ญเริ่มเคลื่อนไปข้างหน้า เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เข้า ออกลิฟท์ เข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกครั้ง แล้วก็ต้องมารอเข้าคิวที่ห้องรอผ่าตัด วิสัญญีแพทย์กับผู้ช่วยเข้ามาสอบถามอาการพร้อมกับเปิดแฟ้มประวัติเพื่อที่จะตรวจสอบว่าเขาจะฉีดยา ดมยาและสอดเครื่องช่วยหายใจไปท่าไหน
ผมตั้งใจเอาไว้ว่ารอบนี้จะจดจำเหตุการณ์ก่อนเข้าห้องผ่าตัดและขณะอยู่ในห้องผ่าตัดห้วงเวลาก่อนที่ยาสลบจะออกฤทธิ์ให้ได้มากที่สุด เริ่มตั้งแต่หลังจากเปลี่ยนชุดเพื่อเข้าห้องผ่าตัดแล้วมานอนรอ ซึ่งมีพนักงานชุดเขียวเกินครึ่งโหลนั่งๆ ยืนๆ รอเข็ญผู้ป่วยเข้า ออก ตามตารางเวลา
ให้ตายเหอะชีวิตพวกเขาดูแล้วช่างน่าเบื่อหน่ายในมุมมองของผม แต่เขาเหล่านั้นอาจจะมีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ก็ได้ เว้นว่างจากการเข็ญเตียงก็มาถอนผมหงอก เก็บสิวเสี้ยนให้กันและกัน มองดูแล้วก็น่ารักดี
ทันใดนั้นสมาชิกวงคลาสสิคร็อควิสัญญีแบนด์ก็โผล่เข้ามา พร้อมกับคำอธิบายปนขู่ว่าถ้าพลาดมันอาจจะอย่างนั้นอย่างนี้ ก้อนเนื้องอกใหญ่ขนาดไหน เราจะสอดสายช่วยหายใจเข้าได้หรือเปล่า ถ้าสอดไม่ได้เลเซอร์ก็จะยิงลำบาก อาจจะต้องเปลี่ยนไปยิงอ๊อกซิเจนแทนไหม และคำถามคลาสสิคสำหรับทุกคนที่ถามมัน เคยผ่ามาก่อนหรือเปล่า แน่นอนคำตอบก็คลาสสิคพอกัน “ไม่ต่ำกว่า 50 ครั้งครับ” ทุกคนรอบข้างก็เงียบไปสักพัก เมื่อตั้งหลักได้เขาก็มาพร้อมกับคำถามชุดใหม่ คำตอบสุดท้ายจากหัวหน้าวง “เตรียมมาให้หมดแล้วค่อยถามอาจารย์อีกที” ทุกคนก็หันกลับไปเตรียมของ ทันใดนั้นสาวๆ เกิร์ลเจนเนอเรชั่นที่หยุดจากการบีบสิวก็พุ่งปรี่เข้ามาหามันเพื่อเตรียมเข็ญผู้ป่วยไปยังเวทีคอนเสิร์ต
ทุกครั้งที่เข้ารับการผ่าตัดมันจะคิดถึงพ่อ พ่อคนที่ใส่คอนแทคเลนส์สีแดงและฉีดน้ำยาดับกลิ่นปากยี่ห้อรวงข้าวตลอดเวลา พ่อของมันจะมีตารางเวลาพบปะเพื่อนฝูงแบบประจำ ทำให้มันต้องอยู่กับแม่ เรากางมุ้งนอนที่ริมสระก่อนมืดก็นั่งในมุ้งดูคนอื่นๆ วิ่งออกกำลังกายใช้เครื่องเล่นต่างๆ รอบๆ สระซึ่งตอนนี้ถูกถมเปลี่ยนเป็นลานจอดรถและตึกแห่งใหม่ หลังจากโตพอที่จะอยู่คนเดียวได้เราก็ย้ายเข้านอนที่ตึกซึ่งมีห้องพักผู้ป่วย อาจจะเป็นเพราะพี่ชายคนกลางเพิ่งจบและบรรจุเป็นข้าราชการจึงสามารถมีเงินพอจ่ายค่าห้องพักได้ในราคาสองร้อยบาท ซึ่งห้องพักเตียงรวมนั้นให้ญาติเฝ้าไข้ได้เพียงคนเดียว ถ้ามีญาติมาด้วยก็ต้องนอนระเบียงข้างนอกซึ่งติดหรือใกล้กับเตียงผู้ป่วยนั่นแหละมีหน้าต่างมุ้งลวดกั้นเอาไว้ ถ้ามันมากับพ่อสองคนจะทำให้ต่างคนต่างมีเวลาส่วนตัวเป็นของตัวเองสูง ขายหัวเราะ มหาสนุกถือเป็นเพื่อนยามนั่งคนเดียวบนเตียงผู้ป่วย
ประตูห้องผ่าตัดเปิดออก ข้างในสมาชิกวงโปรเกรสสีพร็อคต่างสาละวนอยู่กับการเตรียมอุปกรณ์ดนตรีของตัวเอง ในห้องตอนนี้เต็มไปด้วยมนุษย์ชุดเขียวกว่าสิบชีวิตที่ต้องทำการรักษาคนไข้แค่คนเดียว ทีมดมยาวิสัญญีแบนด์จะเข้าถึงตัวก่อนเสมอพร้อมกับพูดหลอกล่อให้มันตายใจขณะฉีดยาสลบอ่อนๆ เข้าสายน้ำเกลือ ไม่ถึงนาทีมันก็รู้สึกถึงความมึนตามตัว แต่ก็ยังตั้งสติเก็บบทสนทนาที่เกิดขึ้นรอบกาย หลังจากนั้นยาสลบชนิดเข้มจะถูกเร่งเข้าตามสายน้ำเกลืออีกครั้ง มันรู้สึกถึงเส้นเลือดทุกเส้นที่อยู่บริเวณที่เข็มน้ำเกลือปักอยู่เป็นความเจ็บแสบในเส้นเลือดที่ไม่มีสิ่งในเหมือน พร้อมๆ กับสัญญาณให้สูดอ๊อกซิเจนลึกๆ ไม่เกิน 5 ปื้ด มันก็ปิดสวิทซ์ตัวเอง
มีเรื่องนึงที่ทำให้มันอดอมยิ้มไม่ได้ ถ้าใครเคยเข้าห้องผ่าตัดคงเคยเจอ ในห้องหนึ่งจะมีทีมแพทย์มาจากหลายสาขาเพราะต้องทำหลายๆ อย่าง เหมือนแต่ละคนไม่ค่อยได้เจอกัน พอเห็นหน้าก็ทักทายกัน บ้างก็ชวนกันไปกินข้าวที่ไหนดี หรือได้ไปดูมารูนไฟว์หรือเปล่า ไปเที่ยวคราวก่อนสนุกไหม คงเป็นวิธีการผ่อนคลายก่อนรักษาคนไข้กระมัง
มันไม่สนุกหรอกกับการมีโรค ยิ่งจะทุกข์หนักเข้าไปอีกถ้าหากเรามีโรคแถมยังไม่มีเงินรักษา มันจะหนักกว่านั้นสำหรับผู้คนที่มีโรค ไม่มีเงินแถมยังไม่มีโอกาสเข้าถึงสถานบำบัดรักษา
สำหรับคนที่เกือบจะตาย แต่ไม่ตายอย่างมันแล้ว การมีทุกข์ทำให้มันรู้จักกับการมีความสุขเล็กๆ น้อยๆ มองชีวิตเป็นเรื่องธรรมดาแต่ก็ไม่ง่าย หาให้ได้เท่าที่ฝัน ทำให้ได้อย่างที่ตั้งใจอย่าเสียดายเรื่องที่เคยผ่านมา พลาดพลั้ง ขอโทษแล้วก็รับผิดชอบไป ถ้าจะหนีก็จะต้องวิ่งหนีไปจนตาย เพราะมันไม่รู้ว่าจะหยุดหายใจเมื่อไหร่ ทุกๆ ครั้งที่ดมยาสลบมันเปรียบเสมือนห้วงเวลาสุดท้ายถ้าไม่ตื่นมาก็ไม่มีอะไรดำเนินต่อ คงไม่ต่างอะไรในทุกๆ คืนที่หลับตานอนรอตื่นตอนเช้า
ความกลัวไม่มีจริงเป็นเพียงสิ่งที่สมองสร้างขึ้น แต่ผลที่เกิดขึ้นจากความไม่กลัวนั่นต่างหากคือเรื่องจริง ไม่ได้บอกตัวเองว่าต้องกลัวขอแค่ให้มีเพื่อเป็นความรู้สึกกระตุ้นเตือนก็พอ
การเข้าผ่าตัดในรอบนี้ทำให้มันเริ่มคิดถึงอะไรหลายๆ อย่าง หลายๆ อย่างที่อยากจะทำแต่ยังไม่ได้ทำ งานอดิเรกเล็กๆ น้อยๆ อื่นๆ อีกมากมาย ถ้าจะเผลอไผลไม่ใส่ใจคงต้องใช้เหตุการณ์ปวดแสบเส้นเลือดเป็นสิ่งเตือนใจให้ต้องทำ บางอย่างที่เคยผ่านเคยมีในชีวิตประจำวันก็จำเป็นต้องปล่อยทิ้งไปบ้างก็คงไม่เป็นไร เพราะมีสิ่งใหม่ที่เข้าคิวรอไว้ให้มันได้ทำอยู่แล้ว
มีความสุขกับวันไหม่และชีวิตที่ปลอดภัยไร้โรคครับ