๑. เด็กบ้านนอก
โดย พร อันทะ เมื่อ
น่าแปลกใจไม่น้อย ที่เมื่อผลสอบออกมา นั้นทำให้เหล่าเพื่อนสนิท ข้างกายของผม ต่างสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ทั้งทั้ง ที่มีเลข ศูนย์ ตัวสีแดง อยู่เกือบครึ่งค่อนสมุดรายงานเกรดนักเรียน ที่คุณครูประจำชั้น ป.2 เพิ่งขานชื่อให้นักเรียนในปกครองของตนออกไปรับ
และต้องมาแปลกใจยิ่งกว่า เมื่อทั้งสองนำตัวเลขอันไม่น่าพิศมัยของใครหลายคนในห้อง อย่างเลข ศูนย์ มาอวดประชันกัน ว่าใครได้ครอบครอง ผลผลิตแห่งความโง่เขลามากที่สุด ผมอาจจะไม่รู้สึกเสียใจสักเท่าไหร่ กับการพลาดโอกาสแห่งการแข่งขันในครั้งนั้น เลข สาม เพียงตัวเดียวที่แปลกแยกออกมาจาก เลข สี่ นั้นสามารถทำให้ผมรู้สึกผิดนิดๆ ที่ไม่สามารถทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับแม่ได้ ว่าจะเอาแค่เพียงเกรด สี่ เท่านั้นกลับบ้าน มิหนำซ้ำ ตำแหน่งผู้สอบได้ที่ หนึ่งก็หลุดลอยไปอยู่ กับคู่ปรับแห่งการเรียนของผม ตลอด ห้า เทอมที่ผ่านมา นาม จำเนียร
แต่จริงๆ แล้วความเสียดายนั้น กลับอยู่ไม่ยั่งยืนสำหรับอารมณ์ แห่งความเป็นเด็ก เพียงแค่ช่วงข้ามคืนก็สามารถที่จะลืมผลพวงแห่งการเรียนมาในเทอมนี้ทั้งหมด เพื่ออ้าแขนต้อนรับห้วงเวลาแห่งการหยุดเรียนในช่วงต้นเดือนเมษาอย่างนี้
เด็ก ชั้นประถมศึกษาปีที่สอง จากโรงเรียนหลังเขาที่ไหนเล่า จะอาลัยอาวรณ์ กับผลการเรียนแต่เพียงนั้น ไม่เว้นว่าจะเป็นเพื่อนสนิททั้งสองของผม สมชาย หรือวิไล ต่างไม่แยแสต่อผลพวงแห่งการศึกษาที่ผ่านมา ทั้งๆ ที่กินไข่ไปคนละหลายใบ
แต่หาใช่ไม่มีใครเดือดร้อนไม่ จวบจนจะเปิดเทอมโน่นแหละ เหล่าบิดาของเพื่อนผมทั้งสอง จึงได้หาเวลาจัดแจง ทั้งเหล้าขาวและไก่มาประเคนให้ครูประจำชั้น เพื่อที่จะได้ให้ลูกชายของตัวเองเลื่อนชั้นตามเพื่อนๆ ไป โดยฉพาะสมชาย นั้น อายุออกจะเกินวัยเพื่อนๆ ไปร่วม 2 ปี เพราะการงานที่ไม่เป็นหลักแหล่งและไม่มั่นคงเพียงพอของครอบครัว ทำให้เขาต้องโยกย้ายถิ่นถานในบางครั้งบางครา ถึงขั้นเข้าเรียนล่าช้าในวันนี้
ซึ่งผิดกับ วิไล ผู้ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ผิดปกติ ดูไกลๆ ออกจะน่ากลัวไม่น่าเข้าใกล้ แต่ด้วยระดับไอคิว ซึ่งจัดอยู่ในระดับต่ำกว่าเกณฑ์ ปกติ จึงทำให้เขาดูไร้พิษสงไปโดยปริยาย บ้างบางเสียงบอกว่า ด้วยเพราะแม่ของวิไล กินยาคุมกำเนิดมากเกินไป จึงทำให้เขาเกิดมาไม่สมประกอบทางด้านสมอง
แสงอรุณแรกของวันใหม่ วันซึ่งเป็นการเริ่มต้นซัมเมอร์ บ้านนอกของเด็กๆ กำลังเริ่มขึ้น ไม่มีร้านเกมส์คอมพิวเตอร์ให้เข้าใช้บริการ มีแต่ละครช่อง เจ็ดสีโกมินทร์กุมาร ให้ชมในยามเช้า ต่อด้วยภาพยนตร์ จีนฮ่องกงของ เฉินหลง โจวเหวินฟะ เยิ่นต๊ะหัว โจวฉิงฉือ มาร่วมเป็น “คนเล็กวิ่งฟัดห่ากระสุนโหดผ่าโลกันต์”
แต่นั่นก็ยังเป็นเพียงห้วงแห่ง เสาร์-อาทิตย์ วันเวลาที่อยู่ในช่วงของการปิดเทอมเท่านั้น ที่ในบางครั้งผมกับผองเพื่อนทั้งสามจะมานั่งดูทีวีด้วยกัน เพื่อที่จะเชียร์โกมินรทร์ ให้รบชนะนางยักใจบาป ได้