ทางโลก

โดย พร อันทะ เมื่อ

-1-

มันแปลกๆ ในความรู้สึก อาจจะเป็นเพราะผมคิดไปเองหรือเปล่า หรือเป็นเพราะเรื่องราวทั้งหลายที่หยิบยกเข้ามาใส่รวมกันเอาไว้นั้นมันต้อง ตรงตาม คำว่า “สุรา ความรักและนักสู้ประชาธิปไตย” ที่จั่วไว้หน้าปกหนังสือ หรือ จับมารวมๆ กันแล้วค่อยจั่วหัวตามเนื้อหา

แต่มันคือ “ทางโลก” ตามชื่อหนังสืออย่างที่ วรพจน์ พันธุ์พงศ์ ว่าจริงๆ เมื่ออ่านจบทั้งหมด มันเป็นทางโลกที่ทำให้ผมเข้าใจว่า นี่แหละคือชีวิตทางโลก ผมปิดหนังสือลงไป ผมกลับไม่รู้สึกอิ่ม เหมือนหนังสือของนักเขียนเดียวกันนี้อย่างหลายๆ เล่มที่เคยได้อ่าน (หรือทุกปก ที่ได้รวมขายนั่นแหละครับ) ผมไม่พยายามหาสาเหตุมาเข้าข้างตัวเองใด ใด ว่าทำไมผมไม่อิ่ม (สารภาพตรงๆ มีเรื่องหนึ่งที่ผมอ่านไม่จบ) เพราะผมรู้ว่ามันคือ ทางโลก ตามที่ว่านั่นแหละ จึงได้รับความรู้สึกนั้น

-2-

ทุกๆ ครั้งที่ผมมีโอกาสได้เข้าร้านหนังสือ ผมมักจะมองหาหนังสือของนักเขียนนาม วรพจน์ พันธุ์พงศ์ เสมอ แม้นจะรู้อยู่ลึกๆ ว่าเปอร์เซนต์การได้อ่านเกือบเท่ากับศูนย์แต่ไม่รู้ทำไม ผมยังมองหามัน หยิบไอ้เล่มเก่าๆ ที่มีอยู่แล้วขึ้นมาพลิกซ้ายพลิกขวาดู แล้วก็วางกลับที่เดิม

เช่นเมื่อวานนี้ ผมเดินวนไปมุมเดิมสองรอบ รอบแรกไม่มีอะไรที่ต้องการ เดินกลับออกมาหานิตยสารอ่าน สารคดี ไบโอสโคป เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิค ก็ยังไม่ถึงรอบวนรายเดือน ผมเลยเดินกลับมาที่เดิมอีกครั้งแล้วจึงตัดสินใจนั่งลงแนบกับพื้น สอดส่ายสายตาไปรอบๆ เหลือบไปเห็นสัน “ทางโลก” ซุกอยู่มุมใต้สุดของชั้นหนังสือ พูดกับตัวเองในใจ ว่า “ทำไมมันช่างหายากหาเย็นเช่นนี้” ทั้งๆ ที่ผมไม่รู้หรอกว่า ผมเดินวนกลับไปหาอะไร

“ไม่ต้องห่อปก เอ่อ แล้วก็ไม่ต้องใส่ถุงครับ ที่คั่นไม่เอาได้ไหมครับ” ผมรับเงินทอนแล้วเดินจากร้านหนังสือมาและไม่ได้สนใจอะไรอีกเลย

-3-

หลายเรื่องราว ที่มันทำให้ผมได้นึกถึงชีวิตของตัวเองที่ผ่านมา ในวัยใกล้สามสิบ เราเสพย์สมกับ “ทางโลก” กันมากมายขนาดไหนบ้างแล้ว มีทางอื่นที่เราจะได้เจออีกหรือไม่ หรือจำเป็นอย่างเดียวว่าเราต้องทางใครทางมัน ชีวิตไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเรื่องที่เรายังไม่เข้าใจมันหรอก

มีความสุขกับชีวิต ทางโลกครับ