ก้าวต่อไป ไอ้กระจอกส์

โดย พร อันทะ เมื่อ

มันจะหงุดหงิดเสมอ เมื่อใช้ชีวิตไปสักพักความคิดเดินมาถึงทางตัน อย่างน้อยที่สุดในชีวิตมันก็เกิดขึ้นประมาณปีละหน มันรู้สึกหงุดหงิด ติดขัด หาทางออกไม่ค่อยเจอแล้วก็รู้สึกว่าตัวเองล้มเหลาวในการใช้ชีวิตไปเสียดื้อๆ

ทำไมอาการแบบนี้ถึงเกิดขึ้นกับมัน ไม่ใช่แค่ครั้งแรกที่เป็น ตลอดระยะเวลากว่าสิบปีที่ผ่านมาเรื่องราวแบบนี้มักเกิดขึ้นเสมอ

แต่ทุกครั้งที่เหตุการณ์ผ่านพ้นไป ชีวิตมันมักจะเปลี่ยนแปลง แต่มันก็ไม่เคยเลย ไม่เคยหาสาเหตุว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับชีวิตมันได้อย่างไร จนกระทั่งอยู่ดีๆ คำถามนี้ก็เกิดขึ้นในหัว “ไอ้ห่าเอ้ย เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยขนาดนี้ ทำไมไม่หาสาเหตุแล้วทำความเข้าใจวะ”

ไม่ใช่ว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีเหตุมีผล อยู่ดีๆ ก็เกิดขึ้น แต่ความเป็นจริงแล้ว มันไม่เคยคิดออกว่ามันควรจะตั้งคำถามต่างหาก หรือเกิดอาการ “คิดไม่พบ“นั่นเอง

มันจึงตั้งชื่อโรคประจำตัวตัวเองว่า “โรคสมองตัน” โรคนี้สังเกตได้ไม่ยาก แค่ถ้าวันหนึ่งตื่นขึ้นมาพร้อมกับคำถามที่ว่า “กูมาทำอะไรที่นี่” เมื่อไหร่ นั่นแสดงว่าโรคนี้ถามหาแล้ว คนเราเมื่อถึงจังหวะที่ต้องเป็นมนุษย์เงินเดือนที่ไม่สามารถหลีกหนีโลกแห่งทุนนิยมสามานย์นี้ออกไปได้ เราจะปรับตัวยังไงให้พร้อมสู้กับวันใหม่อยู่เสมอ ความเปลี่ยนแปลงมันยืนยิ้มร่ารอเราอยู่ตลอดเวลา ให้ตายสิ นี่ไม่ใช่ยุคก่อนประวัติศาสตร์นะ ที่การเปลี่ยนแปลงต้องค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป

แล้วอะไรหละที่สามารถดึงมันให้หลุดพ้นจากวังวนสมองตันที่น่ากลัวนั่นได้ อย่าเลย มันบอกตัวเอง อย่าเพิ่งไปถามหาวิธีแก้ถ้ามึงยังไม่รู้จักสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้มึงเป็นแบบนี้

การหดหายซึ่งความท้าทาย

มึงมีสามทางให้ตัวเอง
หนึ่ง ลาออกไปหางานใหม่และอย่าฝันว่าจะได้เจอของดี เพราะมีแต่พวกที่คิดแบบมึงนั่นแหละโคจรไปพบกัน ณ ที่แห่งนั้น
สอง เปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่เป็นอยู่ให้ได้ แล้วพัฒนาให้มันดีขึ้น ไม่ว่าจะคนหรืองาน
สาม ไปตายซะ ไอ้กระจอกส์

เมื่อคิดได้ดังนั้นแล้ว “มันก็เดินไปตาย

ปล. เรื่องนี้เริ่มเขียนไว้ตั้งแต่ มีนาคม 2014 ผ่านไปสองปีครึ่งจึงกับมากดแสดงตน